pageB1-1

ทุเรียนชะนีเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ยอดนิยมของไทย แม้จะไม่เท่าหมอนทอง แต่ก็มีกลุ่มผู้ชื่นชอบในรสชาติและเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่ไม่น้อยค่ะ มาทำความรู้จักกับทุเรียนชะนีให้มากขึ้นกันค่ะ:

ลักษณะภายนอก:

  • รูปทรง: ผลมีขนาดปานกลางถึงใหญ่ น้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 2-3 กิโลกรัม ทรงผลคล้าย "หวด" คือ ส่วนกลางป่องออก หัวเรียว และก้นตัด
  • หนาม: หนามค่อนข้างใหญ่ ฐานหนามโป่ง ปลายแหลม แต่ไม่ยาวเท่าหมอนทอง หนามค่อนข้างถี่และแหลมคม
  • พู: ร่องพูค่อนข้างลึกและเห็นได้ชัดเจน
  • ขั้วผล: มีขนาดใหญ่และสั้น
  • สีเปลือก: เมื่อสุกจะมีสีเขียวถึงเขียวอมเหลือง

ลักษณะเนื้อและรสชาติ:

  • สีเนื้อ: เหลืองเข้มจัด เกือบเป็นสีจำปา
  • เนื้อสัมผัส: เนื้อละเอียด เหนียว มีเส้นใยปานกลาง เนื้อเยอะ และค่อนข้างแห้งกว่าหมอนทองเล็กน้อย
  • รสชาติ: หวานจัด และ มันมาก รสชาติจะเข้มข้นกว่าหมอนทอง
  • กลิ่น: กลิ่นหอมแรง เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชะนี ซึ่งบางคนชื่นชอบมาก แต่บางคนอาจไม่คุ้นเคย
  • เมล็ด: ค่อนข้างเล็กและมีจำนวนน้อย

จุดเด่น:

  • รสชาติหวานมันเข้มข้น: ถูกใจผู้ที่ชอบทุเรียนรสจัดจ้าน
  • เนื้อเหนียว: เนื้อไม่เละง่าย
  • สีเหลืองเข้มสวยงาม: น่ารับประทาน
  • เมล็ดลีบเล็ก: ทำให้มีเนื้อให้รับประทานเยอะ
  • ให้ผลผลิตเร็ว: เริ่มให้ผลผลิตหลังปลูก 4-6 ปี

ฤดูกาล:

  • ฤดูกาลหลักของทุเรียนชะนีจะใกล้เคียงกับหมอนทอง คือประมาณเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม

แหล่งปลูกที่สำคัญ:

  • มีการปลูกทั่วประเทศไทย แต่แหล่งที่ขึ้นชื่อ ได้แก่ จันทบุรี ระยอง ตราด และ เกาะช้าง (ทุเรียนชะนีเกาะช้าง GI)

ข้อสังเกต:

  • กลิ่นค่อนข้างแรง อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบทุเรียนกลิ่นแรง
  • เมื่อสุกงอม เนื้ออาจเละเร็วกว่าหมอนทอง