pageA1-8
มะม่วงแก้วเป็นมะม่วงพันธุ์พื้นเมืองของไทยที่ได้รับความนิยมในการรับประทานดิบ เนื่องจากมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ค่ะ มาทำความรู้จักกับมะม่วงแก้วให้มากขึ้นกันนะคะ:
ลักษณะทางกายภาพ:
- รูปทรง: ผลมีขนาดเล็กถึงปานกลาง รูปร่างค่อนข้างเรียวยาว โค้งเล็กน้อยคล้ายหยดน้ำ หรืออาจมีลักษณะป้อมสั้นกว่า
- ขนาด: น้ำหนักต่อผลประมาณ 100-300 กรัม
- เปลือก: บาง ผิวเรียบ เมื่อดิบจะมีสีเขียวสด เมื่อแก่จัดจะเริ่มมีสีเหลืองอ่อนแซม
- เนื้อ: สีขาวอมเขียว เนื้อแน่น กรอบ มีเสี้ยนเล็กน้อยถึงปานกลาง ขึ้นอยู่กับความแก่
- เมล็ด: เล็กและแบน
รสชาติ:
- ดิบ: มีรสเปรี้ยวจัด เป็นรสชาติหลักที่ทำให้เป็นที่นิยมในการนำไปรับประทานกับน้ำปลาหวาน พริกเกลือ หรือนำไปทำยำ
- แก่จัด: เมื่อผลแก่จัด รสเปรี้ยวจะลดลงและเริ่มมีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปแล้วจะไม่หวานมากเท่ามะม่วงรับประทานสุก
- ห่าม: รสชาติจะเปรี้ยวอมหวาน กรอบอร่อย
ฤดูกาล:
- มะม่วงแก้วมักจะให้ผลผลิตในช่วงฤดูร้อน ประมาณเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม
แหล่งปลูก:
- สามารถปลูกได้ทั่วไปในประเทศไทย แต่มีแหล่งปลูกที่มีชื่อเสียง เช่น จังหวัดเพชรบุรี และราชบุรี
ประโยชน์และการนำไปใช้:
- รับประทานดิบ: เป็นที่นิยมมากที่สุด โดยจิ้มกับน้ำปลาหวาน กะปิหวาน พริกเกลือ หรือนำไปเป็นส่วนประกอบของส้มตำ ยำต่างๆ
- แปรรูป: สามารถนำไปทำมะม่วงแช่อิ่ม มะม่วงกวน หรือน้ำมะม่วงได้
- คุณค่าทางโภชนาการ: มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
ความแตกต่างจากมะม่วงพันธุ์อื่นๆ:
- รสชาติ: รสเปรี้ยวจัดเป็นเอกลักษณ์ ทำให้แตกต่างจากมะม่วงรับประทานสุกที่มีรสหวานเป็นหลัก และมะม่วงมันที่มีรสมัน
- ขนาด: โดยทั่วไปจะมีขนาดเล็กกว่ามะม่วงรับประทานสุกหลายๆ พันธุ์
- เนื้อสัมผัส: เนื้อแน่นและกรอบ เหมาะสำหรับการรับประทานดิบ
มะม่วงแก้วจึงเป็นมะม่วงที่มีรสชาติโดดเด่น เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสเปรี้ยว และนิยมนำไปรับประทานคู่กับเครื่องจิ้มต่างๆ หรือนำไปประกอบอาหารที่ต้องการรสเปรี้ยวค่ะ


