pageA1-7
ส้มฟรีมองต์เป็นส้มอีกสายพันธุ์ที่น่าสนใจและเป็นที่นิยม โดยเฉพาะในเรื่องของรสชาติหวานและปอกง่ายค่ะ มาทำความรู้จักกับส้มฟรีมองต์ให้มากขึ้นกันนะคะ:
ลักษณะทางกายภาพ:
- รูปทรง: ค่อนข้างกลมแป้นเล็กน้อย
- ขนาด: มีขนาดปานกลาง ประมาณเดียวกับส้มเขียวหวาน
- เปลือก: สีส้มสดใส ผิวเรียบเป็นมัน เปลือกบางและหลวม ทำให้ปอกง่ายมาก
- เนื้อ: สีส้มเข้ม ฉ่ำน้ำ มีรสชาติหวานเป็นหลัก มีกากใยน้อย
- เมล็ด: โดยทั่วไปแล้วจะไม่มีเมล็ด หรือมีเมล็ดน้อยมาก
รสชาติและกลิ่น:
- มีรสชาติหวานโดดเด่น เป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ชอบส้มรสหวาน
- มีกลิ่นหอมสดชื่นเป็นเอกลักษณ์
แหล่งปลูก:
- ส้มฟรีมองต์เป็นผลผลิตจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างส้มคลีเมนไทน์ (Clementine) และส้มเฟโอ (Faeo) ซึ่งพัฒนาขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
- ในประเทศไทย อาจมีการนำเข้าส้มฟรีมองต์มาจำหน่าย
ประโยชน์และสรรพคุณ:
ส้มฟรีมองต์มีคุณค่าทางโภชนาการและประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นเดียวกับส้มชนิดอื่นๆ ได้แก่:
- วิตามินซีสูง: ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
- สารต้านอนุมูลอิสระ: ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย
- ใยอาหาร: ช่วยในระบบขับถ่าย
- วิตามินเอ: ช่วยบำรุงสายตา
- โพแทสเซียม: ช่วยควบคุมความดันโลหิต
จุดเด่นของส้มฟรีมองต์:
- รสชาติหวาน: เป็นจุดเด่นที่ทำให้ส้มฟรีมองต์ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่ชอบรสหวานของผลไม้
- ปอกง่าย: เปลือกที่บางและหลวมทำให้ปอกได้ง่ายมาก เหมาะสำหรับเด็กและผู้ที่ไม่ชอบความยุ่งยากในการปอกเปลือก
- ไม่มีเมล็ดหรือมีน้อยมาก: ทำให้รับประทานได้สะดวก ไม่ต้องกังวลเรื่องเมล็ด
ความแตกต่างจากส้มชนิดอื่นๆ:
- รสชาติ: หวานโดดเด่นกว่าส้มหลายๆ ชนิด
- การปอกเปลือก: ปอกง่ายกว่าส้มส่วนใหญ่
- เมล็ด: มักไม่มีเมล็ดหรือมีน้อยมาก
ส้มฟรีมองต์จึงเป็นส้มที่มีรสชาติอร่อย หวาน ปอกง่าย และไม่มีเมล็ด ทำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคค่ะ