pageA1-5

ส้มแมนดารินเป็นส้มในกลุ่ม Citrus reticulata ซึ่งมีลักษณะเด่นที่แตกต่างจากส้มชนิดอื่นๆ ที่กล่าวมาค่ะ มาทำความรู้จักกับส้มแมนดารินให้มากขึ้นกันนะคะ:

ลักษณะทางกายภาพ:

  • รูปทรง: มักจะมีลักษณะกลมแป้นเล็กน้อย หรือกลมมน ไม่กลมรีเหมือนส้มบางชนิด
  • ขนาด: โดยทั่วไปจะมีขนาดเล็กกว่าส้มเขียวหวานและส้มสายน้ำผึ้ง
  • เปลือก: บางและหลวม ทำให้ปอกเปลือกได้ง่ายมาก แทบจะไม่ต้องใช้แรงเยอะ
  • เนื้อ: สีส้มสดใส ฉ่ำน้ำ แบ่งออกเป็นกลีบๆ ที่แยกออกจากกันได้ง่าย
  • เมล็ด: มีเมล็ดน้อยหรือไม่มีเลยในบางสายพันธุ์

รสชาติและกลิ่น:

  • มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวที่กลมกล่อม มักจะมีความหวานนำ
  • มีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ เป็นเอกลักษณ์ของส้มแมนดาริน

สายพันธุ์ย่อย:

ส้มแมนดารินมีหลากหลายสายพันธุ์ย่อย ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็มีลักษณะและรสชาติที่แตกต่างกันไปเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น:

  • Kinnow (กินโน): มีเปลือกสีส้มเข้ม รสชาติหวานอมเปรี้ยว มีเมล็ด
  • Clementine (เคลเมนไทน์): มีขนาดเล็ก เปลือกสีส้มสดใส ปอกง่าย รสชาติหวาน มักไม่มีเมล็ด
  • Tangerine (แทนเจอรีน): เป็นชื่อเรียกทั่วไปของส้มแมนดารินบางสายพันธุ์ มักมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว
  • Satsuma (ซัทสึมะ): มีเปลือกหลวม ปอกง่าย รสชาติหวาน มักไม่มีเมล็ด เป็นที่นิยมในประเทศญี่ปุ่น

แหล่งปลูก:

  • ส้มแมนดารินมีการปลูกทั่วโลก ทั้งในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน
  • ในประเทศไทย ส่วนใหญ่มักจะเป็นส้มนอกนำเข้า

ประโยชน์และสรรพคุณ:

เช่นเดียวกับส้มชนิดอื่นๆ ส้มแมนดารินมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น:

  • วิตามินซีสูง: ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย
  • ใยอาหาร: ช่วยในระบบขับถ่าย
  • วิตามินเอ: ช่วยบำรุงสายตา
  • โพแทสเซียม: ช่วยควบคุมความดันโลหิต

ความแตกต่างจากส้มชนิดอื่นๆ:

  • เปลือก: ส้มแมนดารินมีเปลือกที่บางและหลวม ทำให้ปอกง่ายกว่าส้มชนิดอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด
  • ขนาด: โดยทั่วไปจะมีขนาดเล็กกว่าส้มเขียวหวานและส้มสายน้ำผึ้ง
  • รสชาติ: มักจะมีความหวานนำและมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์

ส้มแมนดารินจึงเป็นส้มที่มีรสชาติอร่อย ปอกง่าย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทำให้เป็นที่นิยมรับประทานทั้งเด็กและผู้ใหญ่ค่ะ